ความน่ากลัวของโรคและ ซีสต์รังไข่คืออะไร?

  เพื่อนๆหลายคนอาจจะยังไม่รู้นะคะว่าการเป็นโรค ซีสต์รังไข่คืออะไร? วันนี้แอดจะมาอธิบายให้เพื่อนๆฟังว่ามันคืออะไรและมีอาการแบบไหนเราควรดูแลยังไงกันค่ะ

            ความน่ากลัวของโรคและ ซีสต์รังไข่คืออะไร?

ซีสต์รังไข่คืออะไร?

โรคนี้ที่แอดจะพูดถึงมักจะพบอยู่กับผู้หญิงอย่างเรานี่แหละค่ะ ซึ่งมันจะอยู่ในมดลูกและอยู่ในรังไข่ทั้งสองข้างที่ทำหน้าที่ผลิตฮอโมนเอสโตรเจนกับฮอโมนโปรเจสเตอโลนนั่นเองค่ะ

ซึ่งมันจะเกิดจากการที่ถุงน้ำด้านไหนซักด้านของเรามีปัญหาอย่างน้อย 1 ถุง แต่มันจะไม่ค่อยแสดงอาการและไม่เจ็บปวดนะคะ

ทีนี้เรามาดูกันดีกว่าว่าเจ้าซีสต์ที่รังไข่เราเนี่ยมันมีทั้งหมดกี่ประเภท

ซึ่งมันก็แบ่งออกเป็นหลายประเภทนะคะ ไม่ว่าจะเป็นซัสต์เดอร์มอยด์หรือจะเป็นที่เยื่อบุโพรงมดลูก ซึ่งโดยปกติแล้วถุงฟอลลิเคิลเนี่ยมันจะอยู่ตั้งไข่ของเรานั่นเองค่ะ แต่ถ้าถุงนี้มันมีปัญหาอย่างเช่นมันแตกหรือว่ามันลอยออกมาของเหลวงที่อยู่ในถุงมันก็สามารถก่อตัวเป็นซัสต์ได้นั่นเองค่ะ

ซีสต์ที่รังไข่แบบอื่นๆก็จะได้แก่

  • dermoid cysts: การเจริญเติบโตของถุงน้ำในรังไข่ที่อาจมีขน ไขมัน และเนื้อเยื่ออื่นๆ
  • cystadenomas: การเจริญเติบโตที่ไม่เป็นมะเร็งที่สามารถพัฒนาบนพื้นผิวด้านนอกของรังไข่
  • endometriomas : เนื้อเยื่อที่ปกติเติบโตภายในมดลูกสามารถพัฒนานอกมดลูกและยึดติดกับรังไข่ส่งผลให้มีซีสต์

= = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = =

อาการ

ซีสต์รังไข่คืออะไร?
  • ท้องอืดหรือบวม
  • การเคลื่อนไหวของลำไส้เจ็บปวด
  • ปวดอุ้งเชิงกรานก่อนหรือระหว่างรอบเดือน
  • การมีเพศสัมพันธ์ที่เจ็บปวด
  • ปวดหลังส่วนล่างหรือต้นขา
  • ความอ่อนโยนของเต้านม
  • คลื่นไส้และอาเจียน

ถ้าอาการรุนแรงเพิ่มขึ้นก็จะมีอาการ

  • ปวดกระดูกเชิงกรานรุนแรงหรือคม
  • ไข้
  • เป็นลมหรือวิงเวียนศีรษะ
  • หายใจเร็ว

ซึ่งไอ้เจ้าอาการพวกนี้เป็นสัญญาณเตือนว่าถุงในรังไข่ของเรามันเกิดการแตกหรือว่าอาจะมีภาวะแทรกซ้อนได้นั่นเองค่ะ

ภาวะแทรกซ้อนของถุงน้ำรังไข่

ซีสต์ในรังไข่ส่วนใหญ่ไม่เป็นพิษเป็นภัยและหายไปเองตามธรรมชาติโดยไม่ต้องรักษา ซีสต์เหล่านี้ทำให้เกิดอาการเพียงเล็กน้อย แต่ในบางกรณีที่พบไม่บ่อย หมออาจจะตรวจเจอก้อนเนื้อที่อาจะเป็นต้นเหตุของมะเร็งซึ่งเราควรจะไปตรวจร่างกายเป็นประจำนะคะ

ซีสต์รังไข่คืออะไร?

การบิดเบี้ยวของรังไข่เป็นอีกหนึ่งภาวะแทรกซ้อนที่หายากของซีสต์ในรังไข่ นี่คือกรณีที่ซีสต์ขนาดใหญ่ทำให้รังไข่บิดหรือเคลื่อนจากตำแหน่งเดิม เลือดไปเลี้ยงรังไข่จะถูกตัดออก

 และหากไม่ได้รับการรักษา ก็อาจทำให้เนื้อเยื่อรังไข่เสียหายหรือเสียชีวิตได้ แม้ว่าจะเป็นเรื่องผิดปกติ แต่การบิดของรังไข่ก็มีสัดส่วนเกือบ 3 เปอร์เซ็นต์ของการผ่าตัดทางนรีเวชฉุกเฉิน

เครื่องมือถ่ายภาพที่ใช้ในการวินิจฉัยซีสต์ของรังไข่ ได้แก่:

  • CT scan : อุปกรณ์ถ่ายภาพร่างกายที่ใช้สร้างภาพตัดขวางของอวัยวะภายใน
  • MRI : การทดสอบที่ใช้สนามแม่เหล็กเพื่อสร้างภาพอวัยวะภายในเชิงลึก
  • เครื่องอัลตราซาวนด์ : เครื่องตรวจภาพรังไข่

ทั้งนี้ทั้งนั้นเพื่อนๆก็ต้องสำรวจอาการตัวเองและไปตรวจสุขภาพประจำปีกันด้วยนะคะ จะได้รักษาได้มันเพราะการตรวจร่างกายก็เป็นอีกเรื่อองที่สำคัญ ดูแลสุขภาพกันด้วยนะคะ

= = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = =

ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับสุขภาพ คลิก ไวรัสตับอักเสบซี

โดย ufa168

= = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = =